วันศุกร์ที่ 10 มิถุนายน พ.ศ. 2559

หมัด (Flea)


ความสำคัญของหมัด
- ทำให้เกิดโรคผิวหนังจากการแพ้น้ำลายหมัด
- เป็นพาหะนำพยาธิตืดแตงกวา ซึ่งเป็นโรคติดต่อจากสัตว์สู่คน

สาเหตุ
- เกิดจากหมัดในสกุล Ctenocephalides felis

วงจรชีวิต
ตัวเต็มวัยของหมัดตัวเมียจะดูดเลือดและสามารถอยู่บนตัวสัตว์ได้เป็นระยะเวลาหลายสัปดาห์ หมัดตัวเมียวางไข่บนตัวสัตว์ ได้มากถึง 50 ฟองต่อวัน นานติดต่อกันเป็นเวลาหลายสัปดาห์ จากนั้นไข่จะตกลงพื้นและฟักตัวในสิ่งแวดล้อม ประเทศไทยจัดเป็นประเทศที่มีภูมิอากาศเหมาะสมในการฟักตัวของหมัดอย่างมาก ไข่หมัดจะช้เวลาแค่เพียงไม่กี่วันในการฟักเป็นตัวอ่อน ตัวอ่อนของหมัดจะมีขนาดเล็กมาก ลักษณะคล้ายตัวบุ้งและเจริญเติบโตโดยการกินเศษขน มูลของหมัดตัวเต็มวัยและเนื้อเยื้อต้าง ๆ ที่อยู่ในสิ่งแวดล้อมภายในเวลาไม่กี่วันตัวอ่อนของหมัดจะกลายเป็นดักแด้และใช้เวลาประมาณไม่เกิน 10 วัน ในการพัฒนาเป็นตัวเต็มวัย

การกำจัดหมัดอย่างมีประสิทธิภาพ
- กุญแจสำคัญที่จะกำจัดหมัดไว้ได้อย่างถาวรก็คือ ยาที่ใช้จะต้องมีประสิทธิภาพในการกำจัดตัวเต็มวัยและตัวอ่อนของหมัดได้อย่างรวดเร็วเพื่อป้องกันการแพร่กระจายพันธุ์ ต้องกำจัดหมัดทั้งบนตัวสัตว์เลี้ยงและในสิ่งแวดล้อม เพราะหมัดตัวเต็มวัยที่อยู่บนตัวสัตว์เลี้ยงนั้นเป็นเพียง 5 เปอร์เซ็นต์ ของประชากรหมัดเท่านั้น ประชากรหมัดที่เหลือ 95 เปอร์เซนต์ แอบซ่อนอยู่ในสิ่งแวดล้อม คอยเวลาที่จะกลับขึ้นบนตัวสัตว์เลี้ยงอีกครั้ง

- ปัจจุบันมียาหยดหลัง ที่สามารถป้องกันและกำจัดหมัด ซึ่งสามารถฆ่าหมัดได้อย่างรวดเร็ว สามารถใช้ในการรักษาโรคผิวหนังจากการแพ้น้ำลายหมัดได้

- การกำจัดหมัดในสิ่งแวดล้อมเป็นสิ่งสำคัญมากจึงควรเลือกใช้ยาที่มีประสิทธิภาพกำจัดหมัดในสิ่งแวดล้อมได้ ที่นิยมคือ Flumethrin (ไบตืคอล 6 เปอร์เซนต์) แบบผสมน้ำเพื่อราดในบริเวณสนามหญ้าหรือฉีดพ่นในบริเวณที่สัตว์เลี้ยงอาศัยอยู่ ควรทำเป็นประจำทุก ๆ 2 สัปดาห์จนกว่าหมัดจะหมดไปจากสิ่งแวดล้อม

- การใช้ยากำจัดหมัด ควรได้รับคำแนะนำการใช้จากสัตวแพทย์เพราะยาบางกลุ่มไม่สามารถใช้กับแมวได้

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น